ตร.ไซเบอร์รวบ แก๊งคนร้ายก่อเหตุแฮกไลน์และเฟซบุ๊กข้าราชการระดับสูงแล้วหลอกยืมเงิน มีผู้เสียหายทั่วประเทศจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. 65 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลนี3 (ขอนแก่น) พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3บก.สอท.3 แถลงข่าว จับกุมผู้ต้องหา กรณีมีคนร้ายได้แฮกเฟสบุ๊คของ นายสุธี ปรารถนายิ่งยศ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมข้าราชการฝ่ายตุลาการ(ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว) หลังจากนั้นคนร้ายได้สวมรอยเป็นนายสุธี และส่งข้อความทางหมายเลขโทรศัพท์ 0819086342 มาหาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม แจ้งว่าไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ขอให้ผู้เสียหาย ส่งหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับไลน์ มาให้เพื่อใช้ติดต่อด้วย ผู้เสียหายหลงเชื่อคนร้ายว่าเป็นนายสุธี ตัวจริงซึ่งเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คกับผู้เสียหาย จึงได้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ไปให้คนร้าย จากนั้นได้มีข้อความมายังโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นรหัส OTP คนร้ายได้สอบถามรหัสดังกล่าว ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้ส่งรหัส OTP ดังกล่าวไปให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นนายสุธี (ส่งรหัส OTP ให้คนร้าย) ทางข้อความ หลังจากนั้นปรากฏว่าไลน์ของผู้เสียหาย ที่เครื่องโทรศัพท์ ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากคนร้ายได้เข้าไปควบคุมไลน์ของผู้เสียหาย ที่มีรหัสผ่านเป็นการเฉพาะแล้วสวมรอยเป็นผู้เสียหาย และแสดงตัวเป็นผู้เสียหาย โดยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.00 คนร้ายได้เข้าใช้งานไลน์และเข้าถึงข้อมูลในไลน์ของผู้เสียหาย ชื่อไลน์ว่า “ท่านXXXXXXXXXXXX” แล้วเข้าควบคุมสวมรอยและแสดงตนเป็น ผู้เสียหาย แล้วทักไปไลน์หลอกยืมเงินจากบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นเพื่อนในไลน์ของผู้เสียหาย โดยไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นผู้ใด ที่มีอยู่ทั้งประเทศ เพื่อขอให้เพื่อนในไลน์ผู้เสียหาย ชำระค่าบริการค่าโทรศัพท์ให้ จากการสืบสวนพบผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิด ประกอบด้วย น.ส.สโรชา เอี่ยมลออ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 502/7 ถนนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร น.ส.สุนี ภู่อ่าง อายุ 18 ปี ที่อยู่ 97 / 4 หมู่ 10 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร นายสมชาย แสนธิเลิศ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 301/90 หมู่ที่ 5 ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายหลงติ๊บ บุญศรี อายุ 17 ปี ที่อยู่ 90/1 หมู่ที่ 9 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กระทำความผิดฐาน เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง โดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลนายสมชาย ได้ร่วมกระทำความผิดกับนายหลงติ๊บ โดยการแฮกเฟซบุ๊ค หรือไลน์ของบุคคลอื่น แล้วสวมรอยเป็นบุคคลนั้น ส่งข้อความไปหลอกลวงบุคคลอื่นที่เป็นเพื่อนของบุคคลที่ได้สวมรอยเป็นบุคคลที่แฮกเฟซบุ๊ค หรือไลน์ หลอกขอยืมเงิน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินมาให้ ผ่านบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท จากนั้นจะนำเงินจากบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท ไปซื้อพินเล่นเกมส์ เพื่อเป็นการฟอกเงินผ่านร้านเกมส์ นำเงินที่ได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง ทางร้านเกมส์จะโอนเงินเข้าบัญชี จากนั้นจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีอื่น เพื่อไม่ให้เจ้าพนักงานตำรวจติตามได้ และไปกดเงินสดนำเงินสดมามอบให้จากการสืบสวนสอบสวน และจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ สามารถดำเนินการตัดวงจรเครือข่ายผู้กระทำผิด โดยการอายัดบัญชีทรูวอลเลตที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวน 138 บัญชี ตรวจยึดของกลาง (ซิมการ์ด) ในคดีจำนวน 76 ซิม ที่ใช้สมัครวอลเล็ท อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด 10 บัญชี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ายังมีผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหาแฮกเฟซบุ๊ค หรือไลน์ สวมรอยหลอกลวงยืมเงินดังนี้ ผู้เสียหายที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ในพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 38 คดี ผู้เสียหายที่แจ้งความในระบบแจ้งความออนไลน์ระหว่างเดือน เมษายน – พฤษภาคม 2565จำนวน 90 คดี มูลค่าความเสียหายทั่วประเทศ ประมาณ 10,000,000 บาท ในส่วนคดีผู้เสียหายในคดีนี้ที่ถูกไลน์ชื่อว่า “ท่านXXXXXXXXXX” หลอกให้โอนเงินจำนวน 20 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 200,000 บาท