วันนี้ (วันศุกร์ที่ ๒๕ ก.พ.๖๕) เวลา ๑๑.๐๐ น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้แทน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.ผค. มาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจในสังกัด สภ.ไทยเจริญ จว.ยโสธร โดยมี พ.ต.อ.ปัญญา มงคลการ ผกก.สภ.ไทยเจริญ พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัดและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
โดย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ให้โอวาทแก่กำลังพลเพื่อเป็นแนวทางในการทำงานตามนโยบายของ ผบ.ตร. ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย ในการขับเคลื่อนงานตำรวจ เพราะเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และมีความใกล้ชิดกับประชาชน ซึ่งในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นจะต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง รับฟังความคิดเห็น และคำแนะนำของประชาชนมากำหนดทิศทางการทำงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือ และเครือข่ายการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ ทั้งนี้เพราะตำรวจจะทำงานโดยลำพังมิได้ หากปราศจากความร่วมมือ จากประชาชน ภาคประชาสังคมและภาคเอกชนแล้ว การทำงานของตำรวจก็จะล้มเหลว
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า ขอให้กำลังพลทุกนายจะต้องรักษาระเบียบ วินัยและความประพฤติให้เรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาให้แก่ประชาชน โดยจะต้องระลึกเสมอว่าตำรวจคือ สัญลักษณ์ของความปลอดภัยใช้กริยาวาจาสุภาพมีท่าทีที่เป็นมิตร และมีจิตใจพร้อมให้บริการช่วยเหลือประชาชน มีความเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่สมศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ผู้ช่วยผบ.ตร.ยังได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปตรวจสอบ ร้านรับพิมพ์นำบัตร และบ้านพัก ตามรายชื่อในนามบัตรปล่อยเงินกู้ ซึ่งเป็นการปูพรมจับพร้อมกันในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน หลังพบพฤติกรรมการโปรยนำบัตรเกิดขึ้น ทั้งในเขตเมืองและตามชุมชน ทำให้ชาวบ้านเข้าถึงเงินกู้นอกระบบง่ายขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาการใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ ซึ่งมีทั้งการใช้อาวุธและการใช้อุปกรณ์ในการทำให้เกิดความเสียหาย และสร้างความตกใจให้แก่ลูกหนี้ในพื้นที่ภาคอีสาน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวย้ำกับทุกท้องที่ทั้งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 ให้เร่งกวาดล้างเพื่อไม่ให้แก๊งดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งนี้ย้ำเตือน นายทุนเงินกู้นอกระบบ จากนี้ไปจะไม่ใช่การดำเนินคดีเฉพาะการทำให้บ้านเมืองสกปรกจากการโปรยน้ำบัตรเท่านั้น แต่จะเป็นการขยายผลเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกับรายได้ที่ได้มาจากการเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนดกับชาวบ้าน
โดยมีการจับกุมเกิดขึ้นหลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งให้มีการตรวจสอบที่มาของนำบัตร เพื่อทำการตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้และการจ่ายภาษีของผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ดอกโหด ซึ่งเข้าข่ายความผิดปล่อยเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ หรือด้วยความรุนแรง ทำให้ตกใจกลัว ซึ่งแต่ละข้อหา มีโทษทั้งจำและปรับ ตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปีและ 100,000 บาทถึง 500,000 บาท