เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.พ. พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผกก.สน.สามเสน รับรายงานจาก พ.ต.ท.ธนพรหม ธนอาภากร รอง ผกก.สส.สน.สามเสน โดย พ.ต.ต.เกริกพันธุ์ กันแก้ว สว.สส.สน.สามเสน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สามเสน ร่วมกันจับกุมตัวนายอลงกรณ์ ศรีเกิดครืน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 37/2551 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 ความผิดฐาน “หลอกลวงผู้อื่นว่า สามารถจัดหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากผู้ถูกหลองลวง โดยจับกุมได้ลานจอตรถ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ถนนพระรามที่ 4 แขวงและเขตปทุมวัน กทม.
การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโนบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยทำการกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ รวมถึงติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยในสังกัดทำการสืบสวนจับกุม
กระทั่งเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 21 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนฝ่ายสืบสวนสน.สามเเสน ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายอลงกรณ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 37/2551 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 ความผิดฐาน “หลอกลวงผู้อื่นว่า สามารถจัดหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากผู้ถูกหลองลวง ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณบริเวณลานจอตรถ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ถนนพระรามที่ 4 แขวง ปทุมวัน เขตปทุมวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบนายอลงกรณ์ ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงสำเนาหมายจับโดยนายอลงกรณ์ ได้ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่สน.สามเสน
โดยนายอลงกรณ์ ยอมรับว่าก่อเหตุจริง โดยจะอ้างว่าตนสามารถหางานในตำแหน่งต่างๆได้ทั้งในและต่างประเทศ เมื่อมีคนสนใจก็จะเก็บเงินรายละ 2-3 หมื่นบาทซึ่งอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการ เมื่อถึงเวลานัดหมายไปทำงานกลับติดต่อนายอลงกรณ์ ไม่ได้จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามการจับกุมครั้งนี้เป็นการจับกุมก่อนคดีจะหมดอายุความในวันที่ 10 มีนาคม 2565 นี้ และจากการตรวจสอบประวัตินายอลงกรณ์ ยังพบว่ามีหมายจับของ สภ.เวียงมอก จังหวัดลำปาง ความผิดฐานฉ้อโกง และหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานให้ทำในต่างประเทศ ติดตัวอีกจำนวน 3 หมาย ซึ่งจะหมดอายุความเดือนเมษายน 2565 ที่จะถึงนี้เช่นกัน หลังจากนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ดำรวจสภ.เวียงมอก ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป