งานสืบสวน กก.1 บก.ทท.3 บช.ทท. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท., พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ทท.3, พ.ต.อ.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ รอง ผบก.ทท.3, พ.ต.อ.ประภาวิน ฉายโฉมเลิศ ผกก.1 บก.ทท.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธนวิทย์ วิจิตรจริยา สว.กก.1 บก.ทท.3 พร้อมพวก ร่วมกันจับกุม นายสมศักดิ์ หรือเอ หรือนาย ชัยสนาม อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.132/2563 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” จับกุมได้ที่ ริมถนนสาธารณะในพื้นที่ ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจาก เมื่อปี 2563 นายสมศักดิ์ฯ ได้ใช้วิธีการหลอกลวงเหยื่อ โดยผู้ต้องหาสร้างเฟสบุ๊คปลอมพร้อมนำรูปถ่ายทรัพย์สิน เช่น รูปรถยนต์มือสอง รูปโทรศัพท์มือถือ พระเครื่อง ไก่ชน วัว และลงประกาศขายตามกลุ่มเฟสบุ๊คซื้อ-ขายกลุ่มต่างๆ เมื่อมีผู้เสียหายหลงกลเข้ามาสอบถาม นายสมศักดิ์ฯ จะบอกว่าตนนั้นยังมีสินค้าที่ผู้เสียหายต้องการอยู่ พร้อมเสนอขายให้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อก็ทำการตกลงซื้อขายกัน โดยนายสมศักดิ์ฯ จะให้ชำระค่าสินค้าด้วยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีมาเต็มจำนวน หรือบางส่วนก็ได้ เมื่อนายสมศักดิ์ฯ ได้รับเงินก็สัญญาว่าจะทำการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้เสียหาย จากนั้นนายสมศักดิ์จะทำการบล็อกช่องทางการติดต่อกับผู้เสียหายไป โดยมิได้ทำการส่งมอบสินค้าใดๆ เลย หากว่าเบอร์โทรศัพท์เบอร์ใดที่มีการประกาศแจ้งเตือนการโกงค่าสินค้า นายสมศักดิ์ฯ จะปิดเบอร์นั้นทิ้งไปแล้วเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่ เพื่อนำไปโกงผู้เสียหายในรายอื่นๆ ต่อไป ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อที่เข้าแจ้งความแล้ว 11 ราย โดยโอนเงินให้ รายละ 30,000-900,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท เป็นเหตุให้ผู้ต้องหารายนี้ถูกออกหมายจับหลายหมาย โดยนายสมศักดิ์ฯ ได้หลบหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า นายสมศักดิ์ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ห้วยทราย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และทำการจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี
เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
หากผู้เสียหายรายใดเคยถูก นายสมศักดิ์ หรือเอ หรือนาย ชัยสนามฉ้อโกง หากท่านประสงค์จะดำเนินคดี ควรนำหลักฐานไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนใกล้ท่านโดยเร็ว เพื่อรักษาสิทธิตามกฎหมายของตัวท่านเอง