วันที่ 26 สิงวหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคือหน้ากรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวกรวม 7 คน ร่วมกันใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตในห้องปฏิบัติงานฝ่ายเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ชุด 05 ซึ่งอยู่ที่ด้านหลังบ้านกาแฟ ตั้งอยู่ด้านข้างโรงพักตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยล่าสุด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนเรื่องนี้ว่า มีความคืบหน้า และพฤติการณ์ทางคดีมีความชัดเจน ไม่ว่าจะจากคลิปที่ปรากฏ และผลของการสอบสวน ซึ่งในส่วนของผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
สำหรับในแนวทางการสอบสวน ตามที่ระบุว่าในวันเกิดเหตุจับกุมคือวันที่ 5 สิงหาคม แต่ไม่พบว่าในบันทึกประจำวัน มีการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า จำนวนกว่า 100,000 เม็ด แต่อย่างใด ส่วนในเรื่องของการรีดไถเงิน เป็นเพียงข้อมูลที่สื่อรับฟังมาจากผู้ที่ให้ข้อมูลมาเท่านั้น แต่จากการสอบปากคำภรรยาของผู้ตาย ยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่ได้นำยาเสพติดมาด้วย ซึ่งตนก็ได้สอบปากคำถึงที่มาที่ไปของการพบตำรวจ และไปอยู่ในห้องที่เกิดเหตุได้อย่างไรแล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ รวมถึงเรื่องมูลเหตุจุงใจในการกระทำผิดของผู้ต้องหา เท่าที่ดูพฤติกรรม เหมือนกับจะเป็นการพยายามบีบเค้นเพื่อหาที่ซ่อนของยาเสพติด และทราบว่า ผู้ตายเคยมีประวัติถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด
ทั้งนี้ ในส่วนของตำรวจ ที่ยังหลบหนีอีก 2 ราย คือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ร.ต.ท.ธรนินทร์ มาศวรรณา รอง สว. (ป) สภ.เมืองนครสวรรค์ ทาง ผบ.ตร. บอกแล้วว่า ต้องจับมาให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่จะอยู่ในประเทศหรือไม่ ขอยังไม่เผย แต่ยืนยันว่า ไม่ว่าจะไปปรากฏกายที่ไหน ก็ต้องจับ ส่วนจะจับเป็นหรือจับตาย หากเขาไม่ต่อสู้ ก็ต้องจับตัวมาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนการนำหลักฐานวัตถุพยานมาตรวจสอบนั้น ก่อนหน้านี้ ได้มีการเข้าตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บวัตถุหลักฐานมาหลายรายการ ซึ่งหนึ่งในนั้น มีการนำถุงดำมาตรวจพิสูจน์ด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงของกลางที่ยึดมาตรวจสอบต่างๆ นั้นมีอะไรบ้าง และมีเจ้าหน้าที่กองปราบเดินทางลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในห้องเกิดเหตุด้วยด้วย
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ มีข้อมูลว่า จุดเริ่มต้น ดาบโบ้ ซึ่งถือเป็นพ่อบ้านของตำรวจทีมเฉพาะกิจปราบปรามยาเสเพติด ชุด 05 ซึ่งมีประสบการทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์มานานหลายปี เป็นคนให้ข้อมูลกับทีมชุดจับว่า ผู้ตายถือเป็นพ่อค้ายารายสำคัญในพื้นที่ และมีทรัพย์สินอยู่มาก จึงนำทีมไปจับกุมผู้ตายและภรรยามาจากถนนสายเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ พามาแยกตัวสอบสวนภายในห้องที่เกิดเหตุ เบื้องต้น พบว่า ผู้ตายมียาไอซ์ติดอยู่ที่ตัว 3 กรัม และพบว่า ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ มีการบันทึกภาพถ่ายยาเสพติดไว้เป็นจำนวนมาก จึงได้นำตัวผู้ตายไปค้นบ้านพัก ในพื้นที่ อ.ตาคลี ในช่วงกลางดึก ซึ่งผู้ตายพักอาศัยอยู่กับบิดา แต่ผลการตรวจค้นกลับไม่พบยาเสพติดที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่าย จึงได้นำตัวกลับมาเค้นสืบสวนต่อที่ห้องทำงานเดิม จนเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป และผลการสอบปากคำผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด ต่างให้การยืนยันว่า ผกก.โจ้ เป็นผู้เข้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง และไม่ไม่มีใครเคยพูดเรื่องรับเงิน จำนวน 2 ล้านเพื่อแลกกับอิสระภาพในการปล่อยตัวแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ กล่าวถึงเรื่องพ่อของผู้ตายว่า ช่วงแรกๆ เหมือนมีการไม่ยินยอมให้ความร่วมมือ แต่ช่วงหลังเริ่มให้ความร่วมมือทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อคดี ส่วนการแจ้งความเอาผิดพ่อของผู้ตาย ยังอยู่ในรายละเอียดการพิจารณา ต้องดูในในสำนวนการสอบสวนว่ามีการเชื่อมโยงไปถึงเจ้าตัวหรือไม่ หากมีความผิดเกิดขึ้น ก็ถือเป็นการแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งเจ้าตัวจะมีการเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม ในหลายประเด็นย้อนหลัง และในส่วนของประเด็นทรัพย์สินที่อาจจะมีความซับซ้อน จึงต้องใช้เวลาในการสอบสวนอีกสักระยะหนึ่ง.