วันที่ 2 ส.ค.64 ที่หน่วยสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4 พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส. พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.อก.บช.ปส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมนาย ปรีชา แซ่โซ้ง อายุ34 ปี ที่อยู่ 29 ม. 12 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 4,900,000 เม็ด,รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา จำนวน 1 คัน,โทรศัพท์ มือถือ จำนวน 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงราหุล ถนน สระบุรี-หล่มสัก ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่าตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด มุ่งเน้นเครือข่ายรายสำคัญและบุคคลที่หลบหนีหมายจับคดียาเสพติด อีกทั้งให้เน้นการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินรวมทั้งการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปประเทศที่ 3 โดยผ่านระบบคมนาคมและโลจิสติกส์ ตลอดจนทำลายเครือข่าย กลุ่มนักค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคลมีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติด กรณีกลุ่ม นายปรีชา แซ่โซ้ง และนายวรวุฒิ วชิรวงศ์วรกุล มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เตาปูน อ.สอง จว.แพร่ และ ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ทางภาคเหนือ ไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ ภาคกลางและปริมณฑล โดยใช้เส้นทาง จ.เชียงราย–จ.พะเยา–จ.น่าน–จ.อุตรดิตถ์-จ.เลย–จ.เพชรบูรณ์ -จ.สระบุรี – จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าสู่พื้นที่ส่งมอบให้กับลูกค้า ของผู้ว่าจ้างตามคำสั่งการของผู้ว่าจ้าง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ต่อไป จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 เวลาประมาณ 10.40 น. สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงราหุล ถนน สระบุรี-หล่มสัก ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 4,900,000 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสารภายในรถของกลาง จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่าย และยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป