วันที่ 3 ส.ค.64 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางรถยนต์มินิคูเปอร์ โดยผู้ต้องหาได้โพสต์ขายรถยนต์ดังกล่าวในเพจเฟซบุ๊ก “รถหลุดจำนำหลักหมื่น” ซึ่งมีการโพสต์ประกาศชื้อขายรถยนต์หรูและรถต่าง ๆ วันละไม่ต่ำกว่า 30 – 40 คัน ในราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก โดยอ้างว่าเป็นรถหลุดจำนำ สามารถซื้อไปใช้งานได้ถูกต้องตามกฎหมายและต่อภาษีประจำปีได้ แต่จากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์ที่ประกาศขาย มีการใช้แผ่นป้ายทะเบียนและแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ตลอดจนดำเนินการสืบสวนจับกุมเพจเฟซบุ๊กอื่นที่กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใย และได้มอบนโยบายในการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรในทุกรูปแบบ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์เตือนพี่น้องประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาหลอกขายรถมือสองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า หากมีความประสงค์ที่จะซื้อรถมือสอง ควรเลือกซื้อรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ มีสมุดคู่มือการจดทะเบียน หมายเลขตัวถัง หมายเลขเครื่องยนต์ ไม่มีการขูดลบ แก้ไข และตรงตามคู่มือการจดทะเบียน มีเอกสารชุดโอนกรรมสิทธิ์ครบถ้วน และควรมีการทำสัญญาซื้อขายที่มีการลงลายมือชื่อทั้งฝ่ายผู้ขายและผู้ซื้อ หากเกิดกรณีมีปัญหาภายหลัง สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางกฎหมายได้ และเมื่อตกลงซื้อขายรถกัน ควรนัดไปแจ้งโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อ”หากท่านไม่อยากตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกขายรถยนต์ผิดกฎหมาย ก็ไม่ควรซื้อรถมือสองจากเพจเฟซบุ๊กที่มีการโฆษณาขายรถในลักษณะ รถหลุดจำนำ รถหนีไฟแนนซ์ ฯ เนื่องจากรถที่นำมาประกาศขายมักเป็นรถที่ได้มาโดยไม่ถูกต้อง เช่น ขาดการชำระค่างวดกับสถาบันการเงิน หรือเป็นรถที่ถูกโจรกรรม ซึ่งผู้ขายอาจมีการปลอมแปลงแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายการแสดงการชำระภาษีประจำปี จากนั้นจึงนำมาประกาศขายให้กับประชาชนในราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก ซึ่งการซื้อรถลักษณะดังกล่าว หากผู้ซื้อรู้หรือควรรู้ได้ว่ารถคันดังกล่าวได้มาโดยผิดกฎหมาย ผู้ซื้อหรือผู้ครอบครองรถดังกล่าวอาจถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา ลักทรัพย์หรือรับของโจร ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี นอกจากนี้ผู้ซื้อยังเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง หากผู้ขายขอให้โอนเงินมัดจำก่อน และเมื่อผู้ขายได้รับเงินมัดจำแล้วอาจบล็อคบัญชีของผู้ซื้อ ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้และสูญเสียเงินมัดจำได้”
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง