เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแส ผ่านสายด่วน 191 เกี่ยวกับกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนใช้ Social Media Facebook เป็นช่องทางในการ ซื้อขายอาวุธปืน และกำลังแพร่หลายขยายวงกว้างทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ใช้ แอพพลิเคชั่นกลุ่ม Facebook โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “พอเพียง (รักกันสายบุญ)” เป็นช่องทางในการ ลักลอบซื้อขายอาวุธปืนสงคราม อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนอื่นๆ จากการสืบสวนพบว่า จะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่มีอาวุธปืนสงครามจะชื้อขายกันบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้ติดตามข้อมูลการข่าวในกลุ่มดังกล่าว จนกระทั่งนำมาสู่การจับกุม นายพิภพ ดาวกฤษ อายุ 38 ปี เมื่อ วันที่ 15 กรกฎาคม 2564
พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนยาว AK47 ขนาดลำกล้อง 7.62 มม. (ไม่มีเลขทะเบียน) จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนสั้น ขนาด .38 Super (เลขทะเบียน กท.175629) จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด 7.62มม. จำนวน 1 ชุด ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด .38 Super จำนวน 2 ชุด กระสุนปืน ขนาด . 38 Super จำนวน 18 นัด ซองพกอาวุธปืน ชนิดพกซ่อน จำนวน 1 ชุด รถยนต์ ยี่ห้อ Mercedes Benz รุ่น 190E สีดำ หมายเลขทะเบียน ฉษ 5328 กทม.
โดยกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ทั้งนี้ได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่าในกลุ่ม Facebook ดังกล่าว ยังมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับอาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนผิดกฎหมายอื่นอีก จนกระทั่งวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการจับกุมกลุ่มของนายธวัชชัย อุดมรักษ์ ซึ่งมี น.ส.วนิดา เชาว์ประสิทธิ์ และ น.ส.นัทรีญา สุขมาก ในการแบ่งหน้าที่และร่วมกันครอบครองอาวุธปืนสงครามเพื่อเตรียมส่งต่อให้กับบุคคลที่อยู่ในกลุ่ม Facebook ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมพร้อมของกลางตามรายการดังนี้
1. อาวุธปืนยาว AK47 ขนาดลำกล้อง 7.62 มม. (ไม่มีเลขทะเบียน) จำนวน 1 กระบอก
2. ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 1 ชุด
3. กระสุนปืน ขนาด 7.62 จำนวน 21 นัด
4. อาวุธปืนสั้น ไทยประดิษฐ์ (ลูกโม่) ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก
5. กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 2 นัด
6. กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 8 นัด
7. กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด
8. ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนักรวม 2.05 กรัม
จึงได้แจ้งข้อหา จึงได้แจ้งข้อหาข้อหา ผู้ถูกจับทั้ง 3 คน ดังนี้
1. นายธวัชชัย อุดมรักษ์ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) หรือไอซ์ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย”
2. นางสาววนิดา เชาว์ประสิทธิ์ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) หรือไอซ์ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย”
3. นางสาวนัทริยา สุขมาก โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย”
จึงได้นำตัว ผู้ถูจับทั้ง 3 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางคล้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หากประชาชนท่านใด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมาย โซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ สายด่วน ๑๙๑, เพจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ