หนุ่มไทย สาวลาว อ่วม ลักลอบเข้าออกประเทศ แถมติดโควิด เข้ารักษาตัวที่หนองคาย ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายไม่รีรอเอาผิดฐานลักลอบเข้าออกประเทศและปกปิดข้อมูลการเดินทาง จนนำเชื้อโควิดไปแพร่ระบาดในลาว เดือดร้อนทั้งสองประเทศ ขออายัดตัวรักษาหายจะถูกดำเนินคดีทันที
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 23 เม.ย. 64 พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ รองผกก.ตม.หนองคาย พร้อม พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม. ได้เข้าพบ ร.ต.ท.หญิง ชลธิชา ธิศาลา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษชาวไทย 2 คน คือ นายชิตพล ขอสงวนนามสกุล อายุ 30 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด , นายธนกฤต ขอสงวนนามสกุล อายุ 31 ปี และหญิงลาว 1 คน อายุ 26 ปี ที่ลักลอบเข้าออกประเทศโดยผิดกฎหมาย ต้องสงสัยนำเชื้อโควิดไปแพร่ระบาดใน สปป.ลาว และปกปิดข้อมูลการเดินทางต่อเจ้าพนักงาน
พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ รองผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า หลังจากที่คณะเฉพาะกิจป้องกัน ควบคุม และแก้ไขการระบาดของเชื้อโควิด 19 ของ สปป.ลาว ได้แถลงข่าวการพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2 คน เป็นรายที่ 59 และรายที่ 60 ของ สปป.ลาว โดยพบไทม์ไลน์เชื่อมโยงกับชายชาวไทย 2 ราย ได้ลักลอบข้ามไปยัง สปป.ลาว แล้วพาหญิงชาวลาวตระเวนเที่ยวตามผับ ร้านอาหาร ก่อนจะลักลอบข้ามกลับมาในประเทศไทยพื้นที่ จ.หนองคาย และต่อมามีข่าวปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด 19 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองคายในช่วงสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายได้ตรวจสอบแล้วปรากฏหลักฐานว่าเป็นนายชิตพล นายธนกฤต และหญิงลาวคนดังกล่าวจริง ทำให้เชื่อได้ว่าชายไทยทั้งสองรายได้ลักลอบออกนอกประเทศเดินทางไปยังสปป.ลาว พาหญิงสาวไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในแขวงสะหวันนะเขต และ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อกลับมาในประเทศไทยมีอาการเข้าข่ายต้องสงสัยจึงไปตรวจหาเชื้อและพบว่าติดเชื้อโควิดทั้งสามราย
ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี นายชิตพล และนายธนกฤต ในข้อหา เป็นบุคคลสัญชาติไทยเดินทางเข้ามาและออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่าน เขตท่า สถานี ตามประกาศในกฎกระทรวง และไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจำเส้นทางนั้น และจงใจปกปิด บิดเบือนไทม์ไลน์ของตนเองต่อเจ้าพนักงาน โดยนายชิตพล ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหา ให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือให้ความช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการถูกจับกุม ส่วนหญิงลาว ถูกแจ้งข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ตำรวจได้ประสานทำการอายัดตัวไว้แล้ว หากสิ้นสุดการรักษาเมื่อใดจะได้นำตัวเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป.