รวบทันควัน! 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซนใช้ได้จริง ชุดสืบ สภ.รัตนบุรีรวบโจ๋วัย 15ย่องขโมยเงินวัดกลางดึกโดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิด
วันที่ 20 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2564 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 สภ.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดบ้านสร้างบก หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัวบาน อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ว่าเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 22.00 น.ได้มีวัยรุ่น 2 คน เข้ามาลักขโมยเงินในบาตรขนาดใหญ่ที่มีฝาปิดและล็อกด้วยคุณแจอย่างดีที่ อยู่หน้าพระประธานบนศาลาการเปรียญ ซึ่งในรุ่งเช้าเจ้าอาวาสลงมากวาดทำความสะอาดศาลาจึงสังเกตุเห็นว่าบาตรรับบริจากหายไป จึงเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดในบริเวณวัดและใกล้เคียงจึงพบว่าเป็นเด็กวัยรุ่น 2 คน กำลังช่วยกันยกบาตรไปงัดกุญแจที่ล๊อกไว้ออกเพื่อหยิบเงินในบาตรไปกว่า 20,000 บาท แต่ตามภาพไม่ใช้เด็กในพื้นที่แน่นอน
พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.รัตนบุรี จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พลวัฒน์ จงดี รอง ผกก.สร.สภ.รัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ นำกำลังชุดสืบลงพื้นที่หาหลักฐานและพยานตามที่ผู้เสียหายแจ้งไว้ ชุดสืบ สภ.รัตนบุรี จึงลงพื้นที่แกะรอยจนพบ จากคลิปกล้องวงจรปิดพบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นคนต่างอำเภอตระเวนลักทรัพย์ไปตามพื้นที่ต่างๆโดยเป้าหมายจะเลือกวัดเป็นส่วนใหญ่และสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้เช่าห้องพักอยู่ในอำเภอรัตนบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ที่ห้องพักทั้ง 2 คน พร้อมของกลางคือรถจักรยานยนต์ 1 คัน เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายเอ(นามสมมุติ) อายุ 15 ปี อยู่ที่ตำบลกระออม อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ (ตามบัตรประชาชน) และนายบี(นามสมมุติ)อายุ 19 ปี อยู่ที่ตำบลหนองเทพ อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ ทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยนายบี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ได้กล่าวว่า ตนและน้องเอได้ไปเที่ยวในเมือง และเงินหมดจึงเห็นว่าวัดที่ก่อเหตุไม่มีใครอยู่จึงเข้าไปขโมยเงินโดยได้ยกไปทั้งบาตรใบใหญ่ตามภาพ จากนั้นจึงช่วยกันใช้เหล็กงัดกุญแจแล้วนำเงินไปแบ่งกัน เมื่อตนเดินมาขึ้นรถจึงเห็นว่าวัดมีกล้องวงจรปิดตนตกใจมากแต่ก็ได้ทำไปแล้วจึงปล่อยเลยตามเลยจนมาถูกจับดังกล่าวส่วนเงินนั้นตนได้กินเที่ยวจนหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้จัดทำโครงการ 1 อำเภอ 1เซฟตี้โซน (One district, one safety zone หรือ 1-DOSZ) เพื่อลดและป้องกันปราบปรามการกระทำผิดต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ เป็นการแสวงหาความร่วมมือจากส่วนราชกาล ภาคเอกชน ให้มีส่วนร่วมในการ ป้องกันอาชญากรรม พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาในเรื่องความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีภายหลัง โดยใช้หลักฐานจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด(cctv) จึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้แกะรอยหาตัวผู้กระทำผิดได้อย่างว่องไว.
