ปคบ.ร่วม สคบ. ลุยจับร้านค้าย้อมแมวชุดสังฆทาน-ผ้าไตรจีวร ไม่ได้มาตรฐาน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่ บก.ปคบ. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ.
พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 บก.ปคบ.แถลงข่าว ตรวจยึดชุดสังฆทาน ชุดผ้าไตรจีวร ไม่ได้มาตรฐาน ( ย้อมผ้าไตรจีวรเก่ามาทำใหม่หรอกขายผู้บริโภค) ของกลางจำนวนหลายรายการ

ตามที่ปรากฎตามสื่อสังคมออนไลน์ จากกรณีที่พระคุณเจ้าวัดแห่งหนึ่ง ได้ถ่ายคลิปพิสูจน์ผ้าไตรจีวรที่ญาติโยมซื้อมาถวาย พบมีการปลอมย้อมแมวขาย โดยนำผ้าไตรจีวรใหม่ห่อยัดไส้ในด้วยผ้าจีวรเก่าที่ใช้แล้ว
มีสภาพคราบดำใช้งานมานาน สีไม่เหมือนกัน ขนาดผ้าก็ไม่สามารถใช้ได้ อีกทั้งยังมีรอยขาด และมีรูนำไปใช้ไม่ได้ต้องอาบัติ และผ้าแต่ละผืนมีสภาพเก่าสีต่างกัน และกล่องหรือถุงสังฆทานที่มีโยมนำมาถวายพระ ซึ่งพบว่า
ในบรรจุภัณฑ์ เต็มไปด้วยของที่ไม่มีคุณภาพ และราคาแพงเกินความเป็นจริง ไม่สามารถนำสิ่งของไปใช้
ประโยชน์ได้จริง

ต่อมา บก.ปคบ. ได้ร่วมบูรณาการกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ นายธสรณ์อัฑฆ์ ธนิทธิพันธ์ เลขา สคบ. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข รอง ผกก.๑ บก.ปคบ. พ.ต.ต.อนันต์ บัวแก้ว สว.กก.1 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด
สืบสวนทำการสืบสวนตรวจสอบร้านจำหน่าย ชุดสังฆทาน หรือชุดไทยธรรม ที่อาจเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอันเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2550) เรื่องชุดสังฆทาน หรือ ชุดไทยธรรม ซึ่งเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก จึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาล รวม 3 จุด ประกอบด้วย

1.ร้านสรรเสริญ สังฆภัณฑ์ เลขที่ 175 ถนนสามชัย ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พบ น.ส.สิริกาญจน์ สงวนนามสกุล อายุ 58 ปี เป็นเจ้าของร้านดังกล่าว ขณะเข้าตรวจค้นพบ
ชุดผ้าไตรจีวร ผ้าแต่ละผืนมีสภาพเก่าสีต่างกัน กล่องหรือถุงสังฆทานเต็มไปด้วยสิ่งของที่ไม่มีคุณภาพ

2.บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 35/32 หมู่ที่ 12 หมู่บ้านเจริญทรัพย์ ตำบลบึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จังหวัดปทุมานี พบ น.ส.สาคร สงวนนามสกุล อายุ 52 ปี เป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ตรวจค้นพบชุดผ้าไตรจีวร สบง ผ้าแต่ละผืนมีสภาพเก่าสีต่างกัน กล่องหรือถุงสังฆทานเต็มไปด้วยสิ่งของที่ไม่มีคุณภาพ

3.บริเวณบ้านเลขที่ 35/42 หมู่ที่ 12 หมู่บ้านเจริญทรัพย์ ตำบลบึงทองหลาง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมานี พบ น.ส.สุนัน สงวนนามสกุล อายุ 44 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของบ้านขณะตรวจคันพบชุดผ้าไตรจีวร ผ้าอังสะ ผ้าแต่ละผืนมีสภาพเก่าสีต่างกัน กล่องหรือถุงสังฆทานเต็มไปด้วยสิ่งของที่ไม่มีคุณภาพจึงได้ทำการตรวจยึดของกลาง จำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย ผ้าจีวร 90 ผืน ผ้าไตร 90 ชุด สบง 90 ชุด ผ้าอังสะ 10 ผืน ที่รัดอก 20 ผืน ชุดถังสังฆทาน 30 ชุด ชุดกล่องยา 25 ชุด ไม้ที่ใช้สำหรับพับผ้าไตร 3 ชิ้น เตารีดไฟฟ้า 3 เครื่อง เครื่องเป่าทำความร้อน (สำหรับเป่าพลาสติกชุดสังฆทาน 1 เครื่อง

ซึ่งจากการตรวจค้นทั้ง 3 จุดนั้น ผู้ถูกจับได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับซื้อชุดสังฆทาน ชุดกล่องยา
ชุดผ้าไตรจีวร อื่นๆ มาจากวัดต่างๆ โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ในวัด พระ ลูกศิษย์ของวัด ติดต่อมา หรือบางครั้งก็จะ
ให้ลูกจ้างของตัวเองไปติดต่อซื้อตามวัดต่างๆจากนั้นก็นำมาบรรจุเป็นสินค้าใหม่ เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปและจำหน่ายให้กับร้านค้าสังฆภัณฑ์ทั่วไปและร้านค้าขายส่ง ในราคาถูกกว่าความเป็นจริง

ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้น เข้าข่ายการกระทำความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 “ผู้ใดเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดใน
แหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิด
ความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น”ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำผิดซ้ำอีก ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี
หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 30 , 31 “ขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มี
ฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ โดยรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าการไม่มีฉลากหรือการแสดงฉลากดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย”ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่ง
แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 ประกอบประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 23
(พ.ศ.2550) เรื่อง ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าควบคุมฉลาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการปราบปรามการประทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนในการ
เลือกซื้อสินค้าประเภทชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเพื่อที่จะนำไปถวายแด่นักบวชในพระพุทธศาสนา

จึงขอประชาสัมพันธ์ ให้ตรวจสอบร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้ ว่ามีการรับประกันสินค้าหรือไม่ ตรวจสอบตัวสินค้าว่าไม่โฆษณาเกินความจริง มี อย.,.มอก. และราคาไม่แพงหรือถูกจนเกินไป และหากพี่น้อง
ประชาชนพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับสินค้าที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสได้ทางสายด่วน 1135 ศูนย์รับเรื่องรวมร้องทุกข์ บก.ปคบ. “เพจเฟซบุ๊ก”กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ
การคุ้มครองผู้บริโภค”และเว็บไซต์ www.cppd.go.th และศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สคบ.สายด่วน 1166