กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จังหวัดชลบุรี พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรนจ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง. ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง.ผบช.ภ.2. พ.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี แถลงข่าวผลการจับกุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถตำรวจภูธรภาค 2 แถลงข่าวผลการจับกุม นาย องอาจ ทรัพย์มั่น อายุ 24 ปี
สืบเนื่องมาจาก ภ.2 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 เวลา 21.00 น.ได้รับการประสานงานจากบริษัทเบสออโตเซลล์ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ mg สาขาเพชรเกษม แจ้งว่าห้วงระหว่าง วันที่ 22-30 มีนาคม 2564 นาย องอาจ ผู้ต้องหาได้มีการขอซื้อรถยนต์ยี่ห้อ mg จาก พนักงานขายของบริษัท รวม 18 คัน โดยมี นางสาว ณัฐฐนันท์ อิทธิพร อายุ 43 ปี แฟนสาวเป็นผู้ส่งสลิปการโอนเงินค่าซื้อรถยนต์จำนวนดังกล่าวให้กับทางบริษัท เป็นจำนวนเงินประมาณ 16 ล้าน 2 แสนบาท และทางบริษัทได้ทยอยส่งมอบรถยนต์ให้กับ นายองอาจ ไปแล้วจำนวน 16 คัน เหลืออีก 2 คัน แต่ต่อมาทางบริษัทได้ทำการตรวจสอบยอดเงินที่โอนเข้าบัญชีของบริษัทพบว่ามียอดเงินโอนเข้ามาจริงเพียงละ 1 บาท (เช็ดปลอมมูลค่าใบละ 1 บาท) ไม่ตรงตามสลิปที่ น.ส.ณัฐฐนันท์ ส่งหลักฐานมาให้ทางบริษัทดู เชื่อว่าได้ถูกทั้งสองคนร่วมกันหลอกลวง โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใบรายการฝากเงินและนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ส่งให้ทางบริษัทเชื่อว่าได้เงินเต็มจำนวนจริงและได้ทยอยส่งมอบรถ ซึ่งแจ้งที่อยู่ไว้ในเขต จังหวัดชลบุรี ตำรวจภูธรภาค 2 จึงได้ติดตามแหล่งที่คาดว่า จะนำส่งให้กลุ่มเพื่อนสนิท และเครือข่าย ห้วงตลอด กลางคืน วันที่ 31 มีนาคม 2564 ต่อเนื่องวันที่ 1 เมษายน 2564 จนสามารถติดตามรถยนต์ทั้ง 16 คัน กระบะ 3 คัน เก๋ง 13 คัน รวมเป็น 16 คัน
ตรวจสอบประวัติพบว่า นายองอาจ นางสาว ณัฐฐนันท์ มีหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.100/2564 และ จ.101/2564 ข้อหา ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอมนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นโดยทุจริต หรือฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับในคดีนี้ในการหลอกซื้อคอนโดมิเนียมและแต่งสลิปเงินจำนวน 1 บาท ในแต่ละครั้ง ให้รวมเป็นยอดเงินจำนวน 14 ล้านบาท ขณะนี้กำลังอยู่ระกว่างติดตามตัว นาย องอาจ และ นางสาว ณัฐฐนันท์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปและทางบริษัท mg ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน เพชรเกษมแล้ว ในข้อหา ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธฺปลอมนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นโดยทุจริตหรือฉ้อโกงทรัพย์