เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 19 มีค. ร.ต.อ.อาทิป ณรงค์ฤทธิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานีได้รับแจ้งมีเหตุยิงปะทะขณะเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจบริเวณ ม.5 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย หลังได้รับแจ้งจึงรีบสนธิกำลังไปที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานให้ พล.ต.ท. รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภาค 9 พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิงผกก.สภ.ทุ่งยางแดง ไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นจุดตรวจชั่วคราว และพบเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4416 จำนวน 7 นาย กำลังคุมพื้นที่เกิดเหตุหลังจากการปะทะ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดเส้นทางดังกล่าวเป็นการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบและรวบรวมวัตถุพยาน และจากการตรวจสอบพบคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 1 รายอยู่บริเวณป่า ห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร ทราบชื่อ นายสมันดี สะนิ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/4 ม.4 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานีถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่จากการปะทะเข้าบริเวณลำตัวหลายนัด นอกจากนี้ยังพบอาวุธ ขนาด 9 มม.ตกอยู่บริเวณมือข้างขวาและเป้สนาม 1 ใบภายในบรรจุเสื้อผ้า เปลนอนและอุปกรณ์สนาม นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนของคนร้าย กว่า 10 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ สท.มนตรี แก้วทิ หัวหน้าชุด นำกำลังร่วม 7 นายได้เดินลาดตระเวนเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ปรากฏว่าได้รับแจ้งจากหน่วยความมั่นคงว่า พื้นที่ จ.ยะลามีการปล้นรถกระบะและอาจจะหลบหนีตามเส้นทางดังกล่าวเนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อกับ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่จึงได้มีการตั้งจุดตรวจชั่วคราวเพื่อสกัดรถต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังตามจุด ปรากกว่าได้มีคนร้ายขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ตอนครึ่งสีดำไม่ติดป้ายทะเบียนขับมาและเห็นจุดตรวจ คนร้ายจึงพยายามที่จะเลี้ยวรถกลับ อส.ทพ.โชค กราบูณย์ ซึ่งอยู่บริเวณดังกล่าวได้เรียกให้หยุด ปรากฏว่าคนร้ายที่อยู่ท้ายกระบะ 1 คนและคนร้ายที่นั่งใกล้คนขับทั้งสองได้ลงจากรถก่อนชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ อส.ทพ.โชค และพยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า อส.ทพ.โชค จึงใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้คนร้าย ระหว่างนั้น อสทพ.ยงยุทธ แก้วมณี ซึ่งอยู่ใกล้ก็ได้วิ่งมาช่วยก่อนจะมีการยิงปะทะกันขึ้นเสียงดังสนั่น เป็นเหตุให้ นายสมันดี สะนิ ถูกวิสามัญเสียชีวิต ส่วนคนร้ายอีกราย คาดว่าน่าจะเป็น นาย มาหามะ สะอิ ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังไล่ล่าและเข้าทำการปิดล้อมพื้นที่ในรัศมี 500 เมตร สำหรับ นายสมันดี สะนิ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการณ์และมีหมายจับคดีความมั่นคง จำนวน 5 หมาย ประกอบด้วย ก่อเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ อ.ทุ่งยางแดง เมื่อปี 51 ก่อเหตุร่วมปล้นเงินธนาคารกสิกร อ.มายอ เมื่อปี 56 ก่อเหตุยิงชาวบ้านหาของป่า อ.ทุ่งยาแดง ปี 57 ก่อเหตุลอบยิงชาวบ้านเสียชีวิต เมื่อปี 60 และเหตุปะทะ ที่ ต.มะยังหยง อ.ทุ่งยางแดง ปี 62
พล.ต.ท. รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 เปิดเผยหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้าย 7-8 คนใช้รถกระบะเป็นพาหนะปล้นรถกระบะของชาวบ้านในพื้นที่ อ.เมื่อ จ.ยะลา จึงแจ้งให้ทุกพื้นที่สกัดจับ ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี บริเวณจุดเกิดเหตุก็ได้มีการตั้งจุดสกัดปรากกว่ามีคนร้าย 3 คนใช้รถกระบะเป็นพาหนะขับมาตามเส้นทางดังกล่าว เมื่อเหตุเจ้าหน้าที่จึงพยายามที่จะเลี้ยงรถกลับ แต่ถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้จอดเพื่อตรวจ ปรากฏว่ามีคนร้าย 2 คนลงจากรถแล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อนจะวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหลังบ้านของประชาชน เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้จนเกิดการปะทะกันขึ้นเป็นเหตุให้คนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งญาติได้มาดูศพก็ยืนยันว่าเป็นศพ นายสมันดี สะนิ ซึ่งเป็นผู้ต้องคนสำคัญ ส่วนเหตุปล้นรถจาก จ.ยะลา นั้นจากการสอบปากคำผู้เสียหายเข้าใจว่าน่าจะเป็นเหตุทวงหนี้ ส่วนหลังจากมีการวิสามัญคนร้ายทุกครั้งคนร้ายก็มีความพยายามที่จะตอบโต้ ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่และให้แจ้งกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอให้มีการป้องกันตนเอง ส่วนเหตุเผายางรถยนต์ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายนายนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุปล้นรถกระบะก่อนจะซุกระเบิดหวังคาร์บอมในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา แต่โชคดีที่กู้ไว้ได้ทัน เมื่อวันที่ 12 มีค.ที่ผ่านมา