เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้(03 มี.ค.64 ) พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ 191 ได้รับแจ้งจากพลดีเมืองดีว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด(กัญชา)จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ ทำการสืบสวนติดตามจับกุม จนทราบผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยวิธี ชื้อขายออนไลน์ ผ่าน แอพพลิเคชั่น LINE, Facebook และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้4ราย นายอิทธิพัทธิ์ หรือนัด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี นางสาวกวินทิพย์ หรือเบส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี นายทศพร หรือบอย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี นายณัฐนันท์ หรือณัฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี พร้อมด้วยของกลางจำนวนหลายรายการ กัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 6.4 กิโลกรัม อยู่ในกล่องพัสดุเตรียมจัดส่ง จำนวน 25 กล่อง กัญชาอัดแท่ง ห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสซีล น้ำหนักรวมประมาณ 2.75 กิโลกรัม กัญชาอัดแท่ง ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟรอยด์ สีทอง น้ำหนักรวมประมาณ 2 กิโลกรัม กัญชาอัดแท่ง ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟรอยด์สีทอง น้ำหนักรวมประมาณ 6 กิโลกรัม พร้อมรถยนต์กระบะ โตโยต้า รีโว่ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น N-Max และอื่นๆสามารถจับกุมได้ที่ หน้าตึกเคหะธนบุรี 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกลุ่มวัยรุ่นมี
พฤติกรรมจำหน่ายกัญชาผ่านช่องทางแอพลิเคชั่น LINE, Facebook และจัดส่งกัญชาผ่านช่องทางขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มคนดังกล่าวจะใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ N-Max สีดำ จำนวน 2 คัน หมุนเวียนกันไปส่งกัญชา ที่ขนส่งเอกชน และสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่ เคหะธนบุรี 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จากนั้นวันที่ (1 มี.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. จึงได้วางแผนการจับกุม และสังเกตการณ์โดยรอบภายในเคหะธนบุรี 2 เวลาประมาณ 15.45 น. พบหญิง ลักษณะคล้าย น.ส.กวินทิพย์ฯ เดินถือถุงพัสดุลงมาจากตึก เพื่อมาส่งให้กับขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงความบริสุทธิ์ใจ จนเป็นที่พอใจ ขอทำการตรวจค้นกล่องพัสดุจำนวน 25 กล่อง ดังกล่าว พบกัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 5 กิโลกรัม จากนั้นพบชาย ลักษณะคล้าย นายอิทธิพัทธิ์ฯ กำลังจอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวและความบริสุทธิ์ใจ จนเป็นที่พอใจและสอบถามนายอิทธิพัทธิ์ฯ ให้การรับว่าพัสดุที่ น.ส.กวินทิพย์ฯถือลงมาส่งนั้น ตนเป็นคนสั่ง ให้น.ส.กวินทิพย์ฯ ถือลงมาส่งให้เนื่องจากตนติดธุระ และยังรับอีกว่ายังมีกัญชาอีกจำนวนหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่บนห้องพักและสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น พบกัญชาอัดแท่ง จำนวนประมาณ 2.5 กิโลกรัม พร้อมกล่องพัสดุ เลขกำกับพัสดุวางอยู่ภายในห้องพัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามนายอิทธิพัทธิ์ฯเพื่อขยายผลการจับกุม นายอิทธิพัทธิ์ฯ ให้การว่ายังมี นายทศพรฯที่อาศัยอยู่คนละตึก ตนมักจะใช้ให้นายทศพรฯไปรับกัญชาและไปส่งกัญชาให้แก่ขนส่งเอกชน จากนั้นนายอิทธิพัทธิ์ฯ สมัครใจนำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ห้องพักของนายทศพรฯ จากการตรวจสอบพบนายทศพรฯ อยู่ในห้องดังกล่าว สมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจค้น พบกัญชาอัดแท่ง จำนวน 2 กิโลกรัม วางอยู่ที่ระเบียง จากนั้นนายอิทธิพัทธิ์ฯให้การอีกว่าตนสามารถสั่งซื้อกัญชา ได้อีกจำนวน 5-10 กิโลกรัม จากนายณัฐนันท์ฯ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ซอยอนามัยงามเจริญ 31 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงวางแผนการจับกุม พบชายลักษณะคล้ายนายณัฐนันท์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นจับกุม พบกัญชาอัดแท่ง จำนวน 6 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์จากการตรวจสอบข้อมูลการส่ง พัสดุเอกชน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ถึง เดือนกุมภาพันธ์2564 พบมีการส่งกัญชา มากกว่า 400 กว่ารายการเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1-2“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย” ผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 “มียาเสพติดให้
โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย นำส่ง พนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป