พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร
สว.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.ปองธรรม ปองไป รอง สว.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.ปุรณัฐ สุวรรณวิศาล รอง สว.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., ด.ต.วิชาญ บุญเกลี้ยง ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., ส.ต.อ.อรรถพล บุญลิลา ผบ.หมู่ ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป.
พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบการกระทำความผิดรูปแบบต่างๆ ในโซเชี่ยลมีเดีย พบว่ามีกลุ่มนายทุนต่างชาติเปิดเพจเฟสบุ๊กชักชวนให้ประชาชนดาวน์รถจักรยานยนต์ โดยกลุ่มคนร้ายจะรับซื้อรถจักรยานยนต์จากประชาชนที่เข้ามาติดต่อ เพื่อส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่ง ในวันที่ 4 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 00.30 น. พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ดำเนินการขนย้ายรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการรับซื้อผ่านเพจดังกล่าว จึงได้ติดตามกลุ่มคนร้ายไปจนกระทั่งพบผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการและตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้ที่บริเวณริมถนน ฉะเชิงเทรา-กบินบุรี ต.เตาถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ดังนี้ นายทรงกรดฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลกระบะบรรทุก (มีหลังคา)หมายเลขทะเบียน บษ 702 ลำปาง พร้อมกับรถจักรยานยนต์ (บรรทุกอยู่ด้านหลังรถกระบะ) จำนวน 3 คัน37 ปี ผู้ขับขี่ รยนต์บรรทุกส่วนบุคคล กระบะบรรทุก (เสริมกระบะข้าง)
หมายเลขทะเบียน 2ฒฐ 702 กทม. พร้อมกับรถจักรยานยนต์ (บรรทุกอยู่ด้านหลังรถกระบะ) จำนวน 3 คัน จากนั้นนาย ธีระฯ ได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ที่แอบซุกซ่อนไว้ที่ บ้านพักบริเวณ คลองลำเจียก ซอย 1 เขตบึงกุม แขวงนวลจันทร์ กทม. อีกจำนวน 2 คัน
หลังจากได้ทำการสืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้แล้ว ในวันที่ 4 ก.พ.2564 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบจุดพักรถของขบวนการนี้ จำนวน 2 จุด และสามารถจับกุมผู้ต้องหา ได้ จำนวน 1 ราย ดังนี้
- นายวิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี โดยกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความ
ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล กระบะบรรทุก (เสริมกระบะข้าง) รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน อาวุธปืน ยี่ห้อ Smith&Wesson .38 S.&W.SPL. ขนาด .38 มม.หมายเลขประจำปืน EL113-20070196 (ไม่มีหมายเลขทะเบียน) อาวุธปืน ยี่ห้อ Smith&Wesson S.&W.357 MAGNUM ขนาด .357 มม. หมายเลขประจำปืนถูกขูดทำลาย (อยู่ระหว่างตรวจสอบหมายเลขทะเบียน) เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 มม. จำนวน 12 นัด ปลอกกระสุนขนาด .38 มม. จำนวน 5 ปลอก หัวกระสุน ไม่ทราบขนาด จำนวน 1 หัว กล่องบรรจุอาวุธปืนสีดำ จำนวน 2 กล่อง
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่านายวิชัยฯ เคยต้องโทษในคดีอาญา จำนวน 4 คดี ดังนี้
- 2553 ถูกจับกุมในความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
- 2556 ถูกจับกุมในความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
- 2557 ถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจร
- 2563 ถูกจับกุมในความผิดฐาน ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ที่ สภ.ตาพระยา (คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน)
ผู้ต้องหาให้การว่าตนทำหน้าที่รับรถจักรยานยนต์จาก พื้นที่ จว.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดไกล้เคียง ไปส่งยังปลายทาง พื้นที่จังหวัดสระแก้ว มาเป็นระยะเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว ได้รับค่าจ้างจากการขนรถจักรยานยนต์ เที่ยวละ 4,500-5,000 บาท ซึ่งขั้นตอนการขนย้ายจะมีตัวแทนจากฝั่งประเทศกัมพูชามารับรถจักรยานยนต์เพื่อนำไปจำหน่ายต่อในประเทศเพื่อนบ้าน รวมจำนวนรถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาเคยขนไปส่งบริเวณชายแดน ประมาณ 300 คัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้ายในคดีนี้ ในส่วนของผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการต่อไป
กองบังคับการปราบปราม ขอเตือนภัยพี่น้องประชาชนว่า กรณีมีกลุ่มคนร้ายชักชวนให้ทำการดาวน์รถจักรยานยนต์เพื่อนำมาขายให้กลุ่มคนร้ายเพื่อแลกกับเงินสด ขอให้ท่านอย่าหลงเชื่อคำหลอกลวงของกลุ่มคนร้ายดังกล่าว เนื่องจากขณะที่ท่านทำการติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์จากผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์นั้น ท่านย่อมผูกพันด้วยสัญญาซื้อขาย ซึ่งท่านจะต้องชำระเงินค่างวดรถจักรยานยนต์ให้แก่คู่สัญญาจนครบกำหนดชำระ เมื่อท่านนำรถจักรยานยนต์ที่อยู่ในระหว่างผ่อนชำระ ไปขายให้แก่กลุ่มคนร้าย และไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามสัญญา คู่สัญญาของท่านมีสิทธิดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลให้ท่านชำระค่ารถจักรยานยนต์ตามสัญญาพร้อมดอกเบี้ยได้ตามกฎหมาย