เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 มกราคม ที่ สน.ปทุมวัน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6,พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.6,พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.,พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ร่วมแถลงการจับกุมนายพรชัย ประกาพวง อายุ 23 ปี นายณัฐสุต ศิริอัฐ อายุ 19 ปี และนายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรี อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่ ,ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น,ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดขึ้น,พาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร,ร่วมกันมีวัตถุระเบิดซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง” จับกุมได้พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุและจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน หลังเมื่อ 17 มกราคมที่ผ่านมา ได้ร่วมกันก่อเหตุปาวัตถุระเบิดใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมอยู่บริเวณหน้าอาคารจามจุรีสแควร์
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 17 มกราคม มีการชุมนุมต่อเนื่องกันหลายสถานที่ เริ่มจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สน.พญาไท และสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งเหตุดังกล่าวตำรวจตามจับกุมคนผิด 6 รายกระทั่งเวลา 18.00น.เกิดเหตุระเบิดหน้าจามจุรีสแควร์ มีตำรวจเจ็บ 3 นาย นักข่าว 1 คน เจ้าหน้าที่จามจุรีฯ อีก 1 คน รวม 5 คน ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ราย ก่อนตามจับกุมได้ทั้งหมด ซึ่งให้การรับสารภาพว่า เป็นสมาชิกอาชีวะฟันเฟืองเพื่อประชาธิปไตย และได้ร่วมกันมาชุมนุมก่อนก่อเหตุขว้างระเบิดจริง และอ้างว่าได้ทำระเบิดขึ้นมาเอง มีผู้ต้องหา 2 คนเป็นอดีตนักศึกษาอาชีวะ อีกคนกำลังเรียนอยู่ สำหรับจุดประสงค์นั้นทราบว่าต้องการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมไม่พบการก่อเหตุแต่อย่างใด
พ.ต.อ.กำธร กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบวัตถุพยานเป็นชิ้นส่วนแก้ว ตะปู เขม่าวัตถุระเบิด เมื่อวิเคราะห์พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ทำขึ้นเองเรียกว่าระเบิดปิงปอง ซึ่งมีส่วนประกอบคล้ายกันกับอีก 3 จุด คือที่ ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน,กองสลากเก่า,อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าจากเหตุที่เกิด 3 จุดดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ซึ่งผู้ต้องหาให้การเพียงคดีนี้เท่านั้น ส่วนข้อสังเกตที่สังคมสงสัยว่าตำรวจการกระทำกับผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น ยืนยันว่าตลอดการชุมนุมที่ผ่านมา ตำรวจไม่พกพาอาวุธ มีเพียงเครื่องป้องกันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเนื่องจากช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้จะเป็นการชุมนุมโดยสงบสันติ ตอนนี้เรามีปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ ทุกอย่างจะสงบเรียบร้อยต้องขึ้นอยู่กับประชาชนและรัฐที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.กำชับให้รักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันปราบปรามยาเสพติดและอื่นๆ อย่างเคร่งครัด
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายวีรยุทธ เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ โดยมีนายพรชัย ซ้อนท้ายและปาวัตถุระเบิด ส่วนนายณัฐสุต เป็นคนซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดมาให้นายพรชัย และในวันเกิดเหตุนายณัฐสุตได้ขี่รถจักรยานยนต์ประกบนำทางมาด้วย ส่วนสาเหตุที่ลงมือเนื่องจากไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะไปจับเพื่อนตัวเอง ทั้งนี้ตำรวจยังต้องสอบปากคำให้เสร็จสิ้นก่อนจึงจะพิจารณาทำแผนประกอบคำสารภาพ ก่อนคุมตัวส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ภายในเวลา 48 ชั่วโมงตามกรอบกฎหมายต่อไป
ที่มา https://www.matichon.co.th/politics/news_2552518