โฆษก ตำรวจนครบาลแจงพบข้อมูลแก๊งรถซิ่ง มิคาโดะ มีข้อมูลเกี่ยวข้องเคนมผง คาดเขื่อมโยงคดีพื้นที่ โชคชัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล
พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวนนครบาล ระบุถึงความเชื่อมโยงของแก๊ง มิคาโดะกับยาเคนมผง / ยาเคทะเลยทราย หลังปรากฏชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
ว่าในส่วนของแก๊งดังกล่าว จากการข่าวและประวัติการจับกุมพบว่าแก๊งนี้มีความเชื่อมโยงกับยาเสพติดจริง โดยเริ่มมีการเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 2550 / 2554-2556 โดยเริ่มจากพื้นที่ สน.โชคชัย ก่อนจะถูกกดดันจนมีการย้ายไปอยู่แถวหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในพื้นที่ สน.พหลโยธิน และย้ายไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ สน.สายไหม ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งนี้จะชื่นชอบการแข่งรถยนต์ บนถนนสาธารณะ และค้ายาเสพติดประเภท ยาบ้า และยาเค โดยเครือข่ายของแก๊งมิคาโดะ มีลักษณะคล้ายแก๊งโอรส ที่ถูกตำรวจจับกุมไปก่อนหน้านี้
โดยเท่าที่ฝ่ายสืบสวนพบข้อมูล ปัจจุบันแก๊งมิคาโดะมีระดับหัวหน้าอยู่ประมาณ 10 คน ซึ่ง กลุ่มหัวหน้าปัจจุบัน เป็นรุ่นที่ 3 ส่วนตัวนาย ต. ที่ปรากฏชื่อว่าเกี่ยวข้องกับยาเคนมผง ในครั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผล และตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องว่าเกี่ยวข้อง หรือไม่ หรือขณะนี้หลบหนีไปอยู่ที่ใด มีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลให้การสนับสนุนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้
สำหรับผู้ที่ได้รับอันตรายจากการเหตุการณ์นี้ ต้องรอการตรวจสอบ ว่ามีสารเสพติดในร่างกายหรือไม่ หากพบว่ามีก็ต้องถูกดำเนินคดีในฐานความผิดเสพสิ่งเสพติด และต้องนำตัวมาสอบปากคำเพื่อหาความเชื่อมโยงของผู้ค้าต่างๆอีกด้วย
ด้าน พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า รู้ตัวของตัวการและผู้ร่วมขบวนการ ที่เกี่ยวข้องกับเคนมผงและเคทะเลทรายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และยอมรับว่ามีแก๊งรถซิ่งเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ขอรวบรวมหลักฐานเพื่อความชัดเจนก่อน
ขณะที่ในการดำเนินการในคดีเคนมผงนี้ ไม่ได้มีการตั้งกรอบระยะเวลา หรือต้องตั้งคณะทำงานพิเศษ เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาดำเนินการอยู่ตามคำสั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมฝากเตือนผู้ปกครองให้ช่วยแนะนำลูกหลาน ถึงโทษและอันตราย ต่อร่างกาย ของยาเสพติดทุกชนิดโดยเฉพาะประเภทนี้
นอกจากนี้ในวันนี้ยังมีคณะกรรมาธิการตำรวจ ได้เดินทางเข้ามาประชุมร่วม ติดตามความคืบหน้าของการระบาดของยาเคนมผง และเคทะเลทราย ซึ่งผลการหารือจะมีการเรียกตำรวจที่เกี่ยวข้องพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงในวันที่ 21 มกราคม นี้เพื่อรวบรวมข้อมูลใช้ในการนำเข้าสภา เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สำคัญพอๆกับการแพร่ระบาดของโควิด -19