เนื่องด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เล็งเห็นว่าในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งอาจสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมหรือความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ นอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และรักษาความสงบเรียบร้อย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย ระดมติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในช่วงวันที่ ๒๓ – ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓
กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดนำโดย พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา, พ.ต.ต.พัฒษพงศ์ เสณีแสนเสนา, ร.ต.อ.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยกำลังข้าเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.6 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายชาญณรงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.262/2563 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2563 จับกุมตัวได้ที่ห้องพักภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ม.5 ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 นายธีระวัฒน์ฯ อายุ 38 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมาจากงานเกษตรแฟร์ ซึ่งจัดขึ้นภายใน ม.ทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง มุ่งหน้าไปทางตลาดป่าพะยอม โดยมีนายธีระพงค์ฯ อายุ 27 ปี นั่งซ้อนท้าย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายขับรถยนต์ประกบหลังมาในระยะกระชั้นชิด ก่อนที่คนในรถจะใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิด กระหน่ำยิงผู้เสียหายทั้งสองคน ซึ่งกระสุนปืนของคนร้ายทำให้นายธีระพงค์ฯ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนายธีระวัฒน์ฯ ได้รับบาดเจ็บ
จากการสืบสวนทราบว่านายชาญณรงค์ฯ (ผู้ต้องหา) เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี ทางพนักงานสอบสวน จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขอหมายจับผู้ต้องหาในเวลาต่อมาจนกระทั่งวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ที่ ต.ควนมุด อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ จากการตรวจสอบภายในบ้านพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง น้ำหนักรวมถุงประมาณ 7.55 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ ซึ่งตัวผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ที่ห้องพักในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ม.5 ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงติดตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบ พบว่าผู้ต้องหายังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 475/2562 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ข้อหา ความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ, พ.ร.บ.จราจรทางบก และ หมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 620/2562 ลงวันที่ 27 กันยายน 2562 ข้อหา ความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ อีกด้วย
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”