พลตำรวจเอกมนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด 10 คดี ที่ถูกจับกุมในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 23 คน , ยึดของกลางยาบ้าได้เกือบ 13 ล้านเม็ด , ไอซ์ 20 กิโลกรัม , กัญชา 605 กิโลกรัม , เคตามีน 10 กิโลกรัม , เฮโรอีน 2 กิโลกรัม และฝิ่นดิบอีก 4 กิโลกรัม
โดยคดีสำคัญคดีแรก คือการจับกุมนายวันชัย ทองมี กับพวกรวม 5 คน ซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเป็นเครือญาติกัน พร้อมของกลางยาบ้า 7.2 ล้านเม็ด และรถบรรทุก รถยนต์ รวม 3 คัน โดยเครือข่ายนายวันชัยนี้มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากกลุ่มผู้ว่าจ้างจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง ตำรวจจึงเฝ้าสังเกตการณ์จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้ที่ปั๊มน้ำมันริมถนนพหลโยธิน-วังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
และคดีที่ 2 คือคดีที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยานพาหนะชุมพร แบะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมนายอดิศร โสภณภักดีพร้อมของกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ด ขณะที่นายอดิศรพยายามลำเลียงยาบ้าซุกซ่อนใส่กระสอบ 25 กระสอบใส่มาในรถบรรทุก ทะเบียนเชียงใหม่ ลำเลียงมาจากภาคเหนือเพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามค้นหารถบรรทุกต้องสงสัยตามเส้นทางถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี จนพบรถบรรทุกตรงตามที่ได้รับแจ้งจอดอยู่ในปั๊มน้ำมันแถววังมะนาว เจ่าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมนายอดิศร คนขับ และยึดยาบ้าจำนวนดังกล่าว นอกจากนี้ยังตรวจค้นร่างกายนายอดิศรพบยาบ้าอีก 12 เม็ดซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวาด้วย จากนั้นตำรวจจึงขยายผลจับกุมผู้ที่มารับยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชได้อีก 3 คน โดยมี 1 คนที่ไหวตัวหลบหนีไปได้ ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว
ส่วนคดีที่เหลือเป็นการจับกุมกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดออกนอกประเทศหลายคดี มีทั้งยาไอซ์ 20 กิโลกรัม และเคตามีน 10 กิโลกรัม ที่พยายามจะลำเลียงออกนอกประเทศไปในรูปแบบต่างๆ แต่มีลักษณะคล้ายๆ กัน คือการซุกซ่อนยาเสพติดไปในพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ เพื่อส่งออกไปยังปลายทางประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา หรือซุกซ่อนในซองเครื่องดื่มเกลือแร่ และกล่องครีมเทียม ใส่ไปในกระเป๋าสัมภาระของแรงงานไทยที่จะไปประเทศอิสราเอล เป็นต้น
ด้านพลตำรวจเอกมนู ยืนยันว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจะเพิ่มความเข้มงวดสืบสวนหาข่าวการลักลอบขนยาเสพติดที่ปะปนมากับการเดินทางของประชาชนให้มากขึ้น โดยมั่นใจมาตรการคุมเข้มชายแดนทั้งฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจ รวมถึงความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่ นอกจากจะสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายแล้ว จะช่วยป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดได้ด้วย
ขณะที่พลตำรวจโทมนตรี กล่าวถึงการขยายผลสารต้องสงสัยเป็นเคตามีนที่ตรวจพบที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า จากการสืบสวนพบแล้วว่าเป็นของกลุ่มใด โดยเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดเดิมๆ ที่เคยเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม