วันนี้ (8 ธันวาคม 2563) สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแถลงข่าว การจับกุมเครือข่ายเวียดนาม PHISHING หลอกเอารหัส OTP และข้อมูลส่วนบุคคลผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 บาท
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิดนั้น
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.ต.นนท์สมรรถ โบว์สุวรรณ สว.กก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.ต.จินดา แขกปัญญา สว.กก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.ต.ชิต ศรีไชย สว.กก.4 บก.สส.สตม.ทำการจับกุม MR.LAM อายุ ๒๘ ปี สัญชาติเวียดนาม ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ด้วยเจ้าหน้าที่กองกำกับการ ๔ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจค้นเมือง และเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ว่ามีกลุ่มคนร้ายได้ทำการส่งข้อความ sms เข้าไปยังมือถือของผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์และต้องการให้ลูกค้ากรอกข้อมูลลงในแพตฟอร์ม เพื่อทำการอัพเกรดระบบธนาคารออนไลน์ จากนั้นเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการกด LINK ที่ผู้ต้องหาส่งมาให้ ซึ่งเมื่อกดแล้วจะแสดงแพตฟอร์มเป็นรูปแบบของธนาคารไทยพาณิชย์ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวรวมทั้งรหัส OTP จากนั้นเมื่อผู้เสียหายกรอกข้อมูลทางผู้ต้องหาก็จะเอาข้อมูลส่วนตัวรวมทั้งรหัส OTP ไป และทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย ซึ่งจากการสืบสวนตอนนี้ มีผู้เสียหายรายความเสียหายประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการสืบทราบจนทราบว่า หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการที่ได้ทำการกดเงินออกจากบัญชีที่ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงิน คือ MR.LAM อายุ ๒๘ ปี สัญชาติเวียดนาม ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนทราบว่า MR.RAM พักอยู่ในซอยรามคำแหง ๕๐ จนต่อมาวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบกับ MR.RAM จึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ผลจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า MR.RAM ได้ทำการหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ MR.RAM ไปตรวจค้นห้องพัก โดยการตรวจค้นพบสมุดบัญชี บัตรกดเงิน รวม ๘ รายการ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิผู้ต้องหาทราบและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่าเงินที่ได้มานั้นมีการส่งต่อไปให้กับกลุ่มเครือข่ายชาวเวียดนามซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะได้ทำรายงานการสืบสวนเพื่อส่งให้กับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในคดีเพื่อดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาและทำการจับกุมต่อไป
สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่าง ๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง