เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงภาพรวมการชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา และเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมวันนี้ ว่า การชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนจากหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลสำโรง ไปแยกบางนา และประกาศยุติการชุมนุม เมื่อเวลา 22.00 น. โดยสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในภาวะเรียบร้อย การจราจรติดขัดบ้างเล็กน้อย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการชุมนุมวันนี้มีการประกาศทางโซเชียลมีเดีย ว่าจะมีการชุมนุม บริเวณหน้ากรมทหารราบที่1 รักษาพระองค์ ถนนวิภาวดี ก่อนจะเปลี่ยนแปลงสถานที่ชุมนุมไปที่กรมทหารราบที่ 11 ถนนพหลโยธิน ท้องที่ สน.บางเขน ซึ่งทั้งสองจุดกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้แจ้งการชุมนุมตามกฎหมาย ถือเป็นการชุมนุมที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนการชุมนุม ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ผู้จัดได้แจ้งการชุมนุมเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ 16.00 น. ถึง 21.30 น. วัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เพื่อทำตามอุดมการณ์ ปฏิรูประบอบประชาธิปไตย และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพให้แก่ประชาชน ทาง ผกก.สน.โชคชัย ได้แจ้งเงื่อนไขและข้อห้ามตามมาตรา 14,15 และ 16 แห่ง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ดังนี้ ห้ามมิให้ใช้ป้ายข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่น ยุยง ปลุกระดม หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง , ให้ชุมนุมเฉพาะสถานที่ที่ได้แจ้งการชุมนุมไว้เท่านั้น ห้ามเคลื่อนย้ายการชุมนุมโดยเด็ดขาด, การใช้เครื่องขยายเสียงให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ระบุ การใช้เครื่องขยายเสียงสูงสุดไม่เกิน 115 เดซิเบล และค่าเฉลี่ยทั้งหมดตลอดการชุมนุมต้องไม่เกิน 70 เดซิเบล และต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี จารีตประเพณี และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น นอกจากนี้ บช.น. ได้จัดกำลังตำรวจไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยทั้ง 3 จุด ไว้เพียงพอต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยตามสถานการณ์และปริมาณของผู้ชุมนุม
พล.ต.ต.กล่าวต่อว่า มั่นใจในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในทุกพื้นที่ โดยมีการจัดเตรียมกำลังตำรวจ และอุปกรณ์เครื่องกีดขวางป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุม บุกรุกสถานที่สำคัญไว้พร้อมหมด นอกจากนี้ ยังจัดเตรียมความพร้อมอุปกรณ์รถควบคุมฝูงชน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการและแผนของสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ และยังไม่เป็นกังวลในเรื่องของมือที่สาม ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ความรุนแรงขึ้น โดยตำรวจ มีการสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่สำคัญของหน่วยราชการทหาร จะมีเจ้าหน้าที่ทหารช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสริมกำลังของตำรวจอีกชั้นหนึ่ง
พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวอีกว่า ล่าสุดมีการตรวจสอบคลิปที่การ์ดผู้ชุมนุมไปจับกุมตำรวจนอกเครื่องแบบที่บริเวณสะพานลอยใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าว พบว่าเป็นตำรวจยศ ร.ต.ต. สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.พหลโยธิน ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มการ์ดราษฎร ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ยืนยันว่า กลุ่มการ์ดไม่ใช่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ไม่ใช่ประชาชนที่ช่วยเจ้าพนักงานเมื่อเจ้าพนักงานร้องขอ กลุ่มการ์ดไม่มีอำนาจตรวจค้นหรือจับกุมผู้หนึ่ง ผู้ใดตามกฎหมาย
กรณีที่ผู้ชุมนุมมีแนวโน้มเปลี่ยนจุดการชุมนุมไปเรื่อยๆ นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจนครบาลในการรักษาความสงบเรียบร้อยในทุกจุดที่มีการชุมนุม เราต้องทำตามมาตรฐานสากลในทุกจุด สำหรับการเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ออกจากบริเวณกรมทหารราบที่ 1 ต้องดูตามสถานการณ์ แต่ในขณะนี้ได้เปิดสะพานลอยข้ามแยกเรียบร้อย และการจราจรบนถนนวิภาวดี ไม่ได้ติดขัดใดๆ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวเสริมว่า กรณีการเชิญชวนให้มาชุมนุมนั้น ผู้ที่คิดจะจัดการชุมนุมต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และต้องแจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เพื่อให้ ผู้จัดการชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ร่วมกันวางมาตรการรักษาความปลอดภัย และดูแลการจราจร ร่วมกันให้การชุมนุมเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายให้มากที่สุด ส่วนผู้ที่มาร่วมชุมนุมต้องปฏิบัติตาม กฎหมายด้วย
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า การชุมนุมเมื่อวานนี้ที่ศูนย์ราชการนนทบุรี เท่าที่ได้รับรายงานจะมีการแจ้งความดำเนินร้องทุกข์กับผู้ที่พ่นสี ทำลายป้ายสถานที่ดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และการชุมนุมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ในหลายคดี อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ยืนยันว่าผู้กระทำผิดต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดีทุกราย