กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์, พ.ต.ท.ภัทรพล ปัทมวงศ์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.1 บก.ป.
จ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.สุรพล ชูใจ, ร.ต.อ.ปภินวิทย์ อุดมพร รอง สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวกัณณิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ 858/2563 ลงวันที่ 10 พ.ย. 63 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยได้กระทำการกู้ยืมเงินหรือจะกู้ยืมเงิน จากผู้ให้กู้ยืมเงินเกินสิบคนซึ่งมีจำนวนเงินกู้ยืมรวมกันตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป อันมิใช่การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน และ จ่าย หรือโฆษณาประกาศแพร่ข่าว หรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน ให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
พฤติการณ์ เมื่อช่วงประมาณปลายปี 60 น.ส.กัณณิกาฯ และพวกรวม 7 คน ได้ชักชวนผู้เสียหายลงทุนทางการเงินต่างประเทศ (สกุลเงินดอลล่า) อ้างชื่อบริษัทแห่งหนึ่ง และอ้างว่าจะได้เงินปันผล โดยจะทำการจ่ายทั้งเงินต้นและเงินปันผลให้ทุกๆเดือน ตลอดระยะเวลา 24 เดือนที่ลงทุน นอกจากนี้ น.ส.กัณณิกาฯ และพวกรวม 7 คน ได้พาผู้เสียหายเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อไปดูบริษัทเกี่ยวกับการลงทุนจนผู้เสียหาย หลงเชื่อ เมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทย ผู้เสียหายจึงเริ่มลงทุน ซึ่งใน 3 เดือนแรก ผู้เสียหายได้รับเงินปันผลจริง จึงลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 7 ล้านบาท แต่ต่อมา ผู้เสียหายกลับไม่ได้รับทั้งเงินต้นและเงินปันผลตามที่ตกลงกันไว้ จึงได้พยายามติดต่อสอบถามไปยัง น.ส.กัณณิกาฯ และพวกรวม 7 คน แต่ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จนกระทั่งไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายจึงได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับน.ส.กัณณิกาฯ และพวกรวม 7 คน
ต่อมาวันที่ 25 พ.ย. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ม.7 ต.บ้านเชิด อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน. โคกคราม จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ จากการประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวน 5 คน ซึ่งถูกออกหมายจับในข้อกล่าวหาเดียวกัน และยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดี เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจะทำการเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป