โฆษก ตร. และรอง ผบช.น. ยัน เพิ่มกำลังพลไปดูแลและอำนวยความสะดวกการจราจร ที่ SCB สนง.ใหญ่ เบื้องต้นยังไม่มีการขออนุญาตการชุมนุมทั้ง2สถานที่ พร้อมยกระดับตามสถานการณ์ หากเกิดความรุนแรง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 พ.ย.63 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมแถลงข่าวกรณีการชุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง ที่มีการประกาศย้ายพื้นที่การชุมนุม จากสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ซึ่งมาตรการจะเน้นใน 4 เรื่องสำคัญ คือ 1.ป้องกันการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมที่เห็นต่าง 2.เรื่องการจราจรที่มีผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนน 3.มีความจำเป็นต้องป้องกันระวังรักษาสถานที่สำคัญ และ 4.กลุ่มผู้ชุมนุม ยังไม่มีการแจ้งขออนุญาตในพื้นที่ที่จะชุมนุม
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า แนวระวังป้องกันในพื้นที่สำคัญตอนนี้ ตามแผนของบช.น. ก็ยังคงต้องรักษาไว้อยู่ ซึ่งช่วงบ่ายเมื่อผู้ชุมนุมเปลี่ยนพื้นที่ก็จะมีการปรับเปลี่ยนอีกครั้ง ส่วนเรื่องการจราจรช่วงเช้าวันนี้ มีผลกระทบเป็นเครือข่ายทั่ว กทม. ทำให้รถติดขัดในพื้นที่โดยรอบที่มีการวางแนวกั้น
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า การรับมือของกลุ่มต่างๆที่จะมาชุมนุม เบื้องต้นกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง2สถานที่ ยังไม่มีการแจ้งขออนุญาตกับเจ้าพนักงานดูแลการชุมสาธารณะตามกฎหมายแต่อย่างใด ทาง บก.น.2 ได้จัดกำลังเพิ่มเติมไปยังธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ เข้าดูแลพื้นที่และจัดการจราจร เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ส่วนประเด็นเรื่อง ม.112 พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทางตร. ได้ให้ทุกกองบัญชาการตั้งคณะกรรมการ ในการพิจารณา3ด้าน คือ ดูความชัดเจน ความเป็นธรรม และความเหมาะสม ยืนยัน การกระทำใดๆที่ผิดกฎหมายบทใด ก็ต้องดำเนินคดีตามบทนั้น ไม่มีการใช้ ม.112 ในการกลั่นแกล้งผู้ใด ผิดก็ว่าไปตามผิด ตรงไปตรงมา
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่ออีกว่า การยกระดับการชุมนุม ล้วนเป็นประเด็นที่ตำรวจต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ขอฝากไปยังประชาชนไม่ว่าผู้ชุมนุมจะเป็นกลุ่มใดก็ตาม ยืนยันที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนวิธีการใช้ตู้คอนเทรนเนอร์มาเป็นแนวป้องกัน ก็เป็นไปตามสถานการณ์ เพราะก่อนหน้านี้ใช้รถของ ขสมก. แล้วถูกทุบทำลายทำให้เสื่อมมูลค่า จึงได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ย้ำ การชุมนุมเป็นสิทธิของทุกคน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย