กองปราบรวบสองผัวเมีย หลอกขายรถมือสอง ผู้เสียหายกว่า 100 ราย

กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร
มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม, พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย, พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ ชุดปฏิบัติการ 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม รายละเอียด ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย  นางสาวเจนจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัด โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” หมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์  ที่ จ.191/2562 ลง 6 ก.ย.2562  โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงทรัพย์(เงินสด)นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ บุคคลใด บุคคลหนึ่ง”

หมายจับศาลจังหวัดตราด ที่ 30/2563  ลงวันที่ 26 มีนาคม 2563  โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หมายจับศาลจังหวัดอุทัยธานี  ที่ จ.85/2562  ลงวันที่ 11 มิ.ย.2562 2562  โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกง”  นายเฉลิมพล (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ หมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 260 / 2562 ลง 25 มิ.ย. 2562 โดยกล่าวหาว่า “ ฉ้อโกง ” หมายจับศาลจังหวัดสุโขทัย ที่ 29/2563 ลง 20 มี.ค.2563  โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ประชาชน” หมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 41/2563  ลงวันที่ 1 มิ.ย.2563 2563  โดยกล่าวหาว่า “ผู้ใดกระทำผิดด้วยการ นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับกุมตัวได้ที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์ ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้เสียหาย ถูก น.ส.เจนจิราฯ และนายเฉลิมพลฯ (ผู้ต้องหา) หลอกให้โอนเงินในการซื้อขายรถจักรยานยนต์มือสอง โดยนางเจนจิราฯ ได้ใช้เฟสบุ๊ค และไลน์ ในการหลอกลวงเหยื่อจำนวนกว่า 100 ราย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ

          โดย น.ส.เจนจิราฯ และนายเฉลิมพลฯ ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน จะแบ่งหน้าที่กันทำโดย น.ส.เจนจิราฯ จะหารูปรถจักรยานยนต์มือสองในเพจซื้อขายรถ แล้วนำมาโพสท์หลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อ และเมื่อเหยื่อหลงเชื่อยอมโอนเงินให้ น.ส.เจนจิราฯ จะทำเอกสารหลอกให้ลูกค้าเชื่อว่าได้จัดส่งรถให้แล้ว โดยจะให้เบอร์นายเฉลิมพลฯ ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.เจนจิราฯ ทำทีเป็นผู้จัดส่งรถให้กับเหยื่อ จากนั้น น.ส.เจนจิราฯ และนายเฉลิมพลฯ ก็จะเปลี่ยนบัญชี และข้อมูลการติดต่อต่างๆ เพื่อหาเหยื่อรายต่อไป

          จนกระทั่งวันที่ 3 พ.ย.2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม  
ได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.เจนจิราฯ และ นายเฉลิมพลฯ(ผู้ต้องหา) หลบหนีมาอยู่ที่บริเวณ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวนางสาวเจนจิราฯ และนายเฉลิมพลฯ โดยได้นำตัว น.ส.เจนจิราฯ  นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วน นายเฉลิมพลฯ ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง ดำเนินคดีตามกฎหมาย  

          จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าได้ร่วมกันหลอกลวงขายรถจักรยานยนต์มือสองให้เหยื่อมาแล้วจำนวนกว่า 100 ราย ภายในระยะเวลา 3 ปี มูลค่าเสียหายกว่า 3 ล้านกว่าบาท โดยระหว่างการกระทำความผิดนั้นได้เปลี่ยนบัญชี มาแล้วหลายบัญชี

          กองปราบจึงขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน หากมีการซื้อขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง แต่มีการขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ควรศึกษาให้รอบคอบพร้อมทั้งดูสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อขายสินค้าดังกล่าว

“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด