เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ย. ที่ บก.ปอท. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐไชยเฉลิม วงศ์ใหญ่ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. พร้อมมอบหลักฐานให้เอาผิดกรณีนายจาตุรนต์ โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ บนเพจเฟซบุ๊กชื่อบัญชี Chaturon Chaisang
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ และอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ในลักษณะตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการอายัดตัวผู้ถูกกล่าวหาคือ ไมค์-เพนกวิน-รุ้ง ไปยัง สน.ประชาชื่นเพื่อลงบันทึกการจับกุมหลังได้รับการปล่อยตัวกรณีศาลยกคำร้องฝากขัง ซึ่งอาจเข้าข่ายนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
แม้ในเวลาต่อมาเพจดังกล่าว ได้มีการแก้ไขข้อความใหม่ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อน แต่ทว่าโพสต์ดังกล่าวได้มีการก๊อปปี้ข้อความและแชร์ข้อความดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมากแล้ว และถึงอย่างไรก็เข้าข่าย “ความผิดสำเร็จ” ไปแล้วตามประมวลกฎหมายอาญา ม.63 ประกอบ ม.80 เพราะความผิดประเภทนี้ เป็นความผิดที่กฎหมายไม่ต้องการผลตามทฤษฎีการกระทำความผิดทางอาญา
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้มาร้องเรียนกล่าวโทษต่อ บก.ปอท.เพื่อเจ้าของเพจมาสอบสวนตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลาต่อมาเพจดังกล่าว ได้โพสต์เพิ่มเติมว่า…
“ผมโพสต์ความเห็นเกี่ยวกับการอายัดตัวไมค์กับเพนกวินไปเมื่อวาน ใช้คำว่าซ้อมจนสลบ ต่อมาก็ปรับเป็นทำให้สลบ แต่ก็ได้ยืนยันว่าได้ข้อมูลว่ามีการใช้กำลัง มีการล็อคคอและทำให้สลบ
เห็นข่าวไมค์ให้สัมภาษณ์เล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ก็อยากเชิญชวนให้ท่านทั้งหลายช่วยวิเคราะห์ว่าตกลงแบบนี้เกิดอะไรขึ้นและควรจะเรียกว่าอะไร
แต่ที่สำคัญกว่านี้คือต้องถามว่าทำแบบนี้ก็ได้หรือ”
และอีกโพสต์ว่า…
“ตำรวจแถลงว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กล่าวร้ายการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่จากกรณีอายัดตัวผู้ต้องหา
ต่อมาก็มีผู้อ้างว่าจะไปร้องเรียนกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผมในเรื่องเดียวกันนี้
ก็อยากจะบอกกับเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ขอให้ได้รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน โดยเฉพาะบันทึกวีดีโอผู้ต้องหาที่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือมาจากในรถ บทสัมภาษณ์ของทั้งสองคนนี้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในการอายัดตัวและการเคลื่อนย้ายพวกเขาไปโรงพักและล่าสุดคือคำแถลงของโรงพยาบาลพระราม 9 เกี่ยวกับอาการของผู้ต้องหาทั้งสองคน
พยานหลักฐานเหล่านี้ คือสิ่งที่จะยืนยันได้ว่าการอายัดตัวและเคลื่อนย้ายผู้ต้องหาทั้งสองมีปัญหาอะไรบ้าง มีใครทำผิดกฎหมายวิธีพิจารณาอย่างไรหรือไม่ ถ้าความจริงได้ปรากฏต่อกลไกในระบบยุติธรรมและสาธารณชนแล้ว อย่างน้อยก็คงจะเป็นประโยชน์ในการที่จะป้องกันไม่ให้ตำรวจกระทำการใดๆ ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายอันเป็นการคุกคามประชาชนอย่างที่ได้ทำตลอดมาในช่วงหลายเดือนมานี้
ที่ผ่านมาได้มีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหลายครั้งหลายหน รวมทั้งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองทั้งการตั้งข้อหาร้ายแรงเกินกว่าเหตุ การจับกุมผู้ต้องหาโดยไม่แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ไม่แจ้งข้อหา ไม่ให้ผู้ต้องหาได้มีโอกาสพบทนายหรือญาติ นำตัวผู้ต้องหาเดินทางโดยยานพาหนะที่เสี่ยงอันตรายทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความยินยอมของผู้ต้องหา การสลายการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การชุมนุม ที่ต้องใช้คำสั่งศาลและการสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำความดันสูงผสมสารเคมี ที่เป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชนที่ชุมนุมโดยสงบ จนมาครั้งหลังสุดก็ทำซ้ำๆ กับที่ผ่านมา และการอายัดตัวผู้ต้องหาและการเคลื่อนย้ายผู้ต้องหาในครั้งนี้มีผลทำให้ผู้ต้องหาต้องบาดเจ็บถึงขั้นสลบหมดสติและมีอาการทางสมองที่แพทย์ต้องติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด
สิ่งเหล่านี้เป็นการคุกคามประชาชนและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อนและอาจยั่วยุให้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงเพื่อเป็นเหตุข้ออ้างในการปราบประชาชนได้