ตำรวจเตือนปชช.อย่านำข้อมูลส่วนตัวกรอกลงในเว็บลอยกระทงออนไลน์ เสี่ยงโดนมิจฉาชีพฉกข้อมูลนำไปทำเรื่องผิดกฎหมาย เผย ผบ.ตร. กำชับจัดกำลังดูแลทั่วประเทศ
วันนี้ 30 ต.ค. 2563 เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ว่า
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำชับในที่ประชุม ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงที่จะถึงในวันที่ 31 ต.ค. รวมทั้งตรวจตราร้านจำหน่ายดอกไม้ไฟที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังตรวจตราจุดที่อาจจะมีการเล่นดอกไม้ไฟ พลุ ประทัด และโคมลอย ในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อประชาชนทั่วไป
“สำหรับวันลอยกระทงถือเป็นประเพณีไทยมาแต่โบราณ ประชาชนนิยมออกมาท่องเที่ยว ลอยกระทง ลอยโคมไฟประทีป ตามแม่น้ำ ลำคลอง และสวนสาธารณะ รวมทั้งสถานบันเทิงต่างๆทั่วประเทศ อีกทั้งในวันนี้ยังตรงกับวันฮาโลวีน ที่เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองประจำปีของชาวตะวันตก ในช่วงกลางคืนอีกเช่นกัน จะมีชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย นักท่องเที่ยว รวมถึงชาวไทยบางส่วนออกมาร่วมกิจกรรมรื่นเริงกันเป็นจำนวนมาก โดยทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่จะออกมาทำกิจกรรมดังกล่าว จึงได้มีหนังสือสั่งการไปยังหน่วยงานตำรวจทั่วประเทศให้ช่วยกันอำนวยความสะดวกการจราจร รักษาความปลอดภัย และดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ออกมาร่วมกิจกรรมในทั้งสองเทศกาลมีความสุข และปลอดภัยไปพร้อมกัน”
พลตำรวจตรียิ่งยศ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของกองบังคับการตำรวจน้ำ ให้จัดเรือพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราตามบริเวณลำน้ำ เพื่อป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำ โดยให้ประสานงานกับกรมเจ้าท่าในการตรวจความเรียบร้อยและความั่นคงของโป๊ะ หรือท่าเทียบเรือ กรณีไม่อยู่ในสภาพปลอดภัย หรือซ่อมแซมไมได้ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปิดประกาศห้ามใช้ให้เห็นชัดเจน และมีเชือกกั้นเขตไม่ให้เข้าไปใช้บริการ รวมถึงประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลงไปบริเวณท่าเทียบเรือ หรือโป๊ะ เกินจำนวนที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนด้วยความสุภาพและเหมาะสม
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเตือนว่า นอกจากนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังมีความห่วงใยประชาชนที่มีความนิยมลอยกระทงแบบออนไลน์ โดยจะมีการใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง เบอร์โทรศัพท์ และเลขบัญชีในการกรอกข้อมูลที่จะร่วมลอยกระทงออนไลน์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยากขอเตือนประชาชนระวังอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่เข้าไปหาผลประโยชน์ โดยการเอาข้อมูลของประชาชนไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายในอนาคต
ทั้งนี้ ตำรวจยังได้แนะนำข้อปฏิบัติ ดังนี้ 3 ห้าม คือ 1. ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอย ในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรืออาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท 2. ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ 3. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง ในขณะขับขี่ หรือโดยสาร หรือบนรถ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 42 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3 ไม่ คือ
1. ไม่ควรแต่งกายล่อแหลมต่อมิจฉาชีพ
2. ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานตามลำพัง
3. ไม่ควรไปเที่ยวในสถานอโคจร มั่วสุม
3 ควร คือ
1. ควรระมัดระวังการใช้บริการโป๊ะ ท่าเทียบเรือ โดยเฉพาะในที่ที่มีคนจำนวนมาก
2. ควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังการถูกล่อลวงไปในทางมิชอบ
3. ควรรื่นเริง บนพื้นฐานของการสืบสานประเพณีไทย
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้กล่าวอีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงฝากมายังพี่น้องประชาชนที่จะออกมาเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทง โปรดสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกัน และลดการแพร่ระบาด โดยปฏิบัติตามมาตรการการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากมีการพบเหตุ สิ่งของ หรือบุคคลต้องสงสัยที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย และเป็นอันตรายต่อส่วนรวม สามารถแจ้งข้อมูลมายังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 และ 191 ได้ตลอด
24 ชั่วโมง