พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับกลุ่มผู้เสียหาย อ้างถูกเพจเฟซบุ๊กขายทองออนไลน์ “จีจี้ ปีโป้” หลอกขายทองคำ แต่น้ำหนักไม่ตรงกับตามที่ขายในไลฟ์สด พบผู้เสียหายหลายราย ความเสียหายจำนวนมาก ว่า
ได้รับรายงานจาก บก.ปคบ. ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ไลฟ์สด ผ่านเฟซบุ๊กชื่อว่า จีจี้ ปีโป้ ขายทองในราคาถูก โดยใช้วิธีการพูดชักชวนต่างๆ นานา ทำให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าทองที่นำมาเสนอขายนั้น มีน้ำหนัก 1 บาท เเละมีความบริสุทธิ์ของทองร้อยละ 99.99 จริง ประกอบกับมีการเปิดเพลงรบกวนเสียงดัง และมีหน้าม้าเข้ามาพูดเเทรกอยู่ตลอด ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปยังบัญชีของผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อผู้เสียหายได้รับทองเเล้ว ตรวจสอบพบว่าทองดังกล่าวไม่ใช่ทองรูปพรรณขนาด 1 บาท และมีความบริสุทธิ์ไม่ถึงร้อยละ 75 ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกหลอกลวง และได้รับความเสียหาย จึงมาเเจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า เรื่องดังกล่าวขณะนี้พบว่า มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ที่ บก.ปคบ. แล้ว กว่า 30 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 5 เเสนบาท โดยยังมีผู้เสียหายไปร้องทุกข์ในท้องที่ที่เกิดเหตุอื่นๆ ทั่วประเทศอีกจำนวนหนึ่ง คดีนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบสวนสมาคมร้านทอง สืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบถึงผู้เกี่ยวข้องในคดี รวมถึงส่งทองของกลางไปตรวจพิสูจน์ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่ต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในทุกกองบัญชาการที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ถึงพฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพ การหลอกลวงในลักษณะต่างๆ ฉกฉวยโอกาสกระทำความผิด สร้างความเดือดร้อน และซ้ำเติมประชาชนในช่วงสถานการ์ณเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หากตรวจพบว่ามีการกระทำในลักษณะหลอกลวงประชาชนจริง ก็ให้เร่งดำเนินการสอบสวนสืบสวน จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 343 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14(1) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค หรือความผิดฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
หากประชาชน หรือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวก็สามารถนำเอกสารหรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ได้ในทุกพื้นที่
อีกทั้งหากพบการกระทำความผิดหรือต้องการแจ้งเบาะแส สามารถโทรมาได้ที่หมายเลขสายด่วน 191,1599 ,1155 (ศปอส.ตร.)